วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

งานวิจัย





Direct X


Direct X คือ โปรแกรมที่ทำหน้าที่ติดต่อกัีบ อุปกรณ์โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านระบบปฏิบัติการ ทำให้สามารถเข้าถึงคุณสมบัติืต่าง ๆ ของ hardware ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านระบบปฏิบัติการ ทำให้เข้าถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของ hard ware เช่น ภาพ เสียง และมีความสามารถในการวอเคราะห์ความสามารถของ hrad ware เพื่่อปรัีบแต่งค่าต่าง ๆ ของ โปรแกรมให้เหมาะสมหรือชดเชยการทำงานที่เครื่องไม่สนับสนุน
ทำให้โปรแกรม Multimedia หรือเกมส์ที่ติดต่อผ่าน DirectX ใช้ความสามารถด้านฮาร์ดแวร์ของระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังสามารถทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบ Hardware ที่แตกต่างกันได้


FTP



File Transfer Protocol (FTP)
FTP (File Transfer Protocol) เป็นโปรโตคอลมาตรฐานในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแลกเปลี่ยนไฟล์ ระหว่างคอมพิวเตอร์บนอินเตอร์เน็ต คล้ายกับ Hypertext Transfer Protocol (HTTP) ที่ใช้ในการส่งเว็บเพ็จและไฟล์ที่เกี่ยวข้อง และ Simple Mail Transfer Protocol (SMPT) ที่ใช้ส่งผ่าน e-mail ซึ่ง FTP เป็นโปรโตคอลประยุกต์ที่ใช้โปรโตคอล TCP/IP โดย FTP ใช้ในการส่งไฟล์เว็บเพจจากแหล่งที่เก็บไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยแสดงฐานะเป็นเครื่องแม่ข่าย สำหรับทุกคนบนอินเตอร์เน็ต และนิยมใช้ในการ download โปรแกรมและไฟล์มายังเครื่องคอมพิวเตอร์จากเครื่องแม่ข่ายอื่น
การใช้ FTP สามารถใช้คำสั่งติดต่อแบบ command line (เช่นเดียวกับคำสั่งของ MS_DOS) web browser สามารถสร้างคำขอ FTP เพื่อ download โปรแกรมที่เลือกจากเว็บเพจนอกจากนี้ FTP สามารถใช้ปรับปรุงไฟล์บนเครื่องแม่ข่าย โดยต้อง logon ไปที่ FTP server การสนับสนุน FTP โดยพื้นฐานในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งโปรแกรมที่มากับ TCP/IP อย่างไรก็ตามโปรแกรม FTP แบบ client ที่มีการติดต่อแบบ GUI ต้อง download จากบริษัทที่ผลิต




่java applets

java applets คือภาษาที่ใช้ในการเขียนเพื่อตกแต่ง Web อีกภาษาหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เป็นตัวเสริมทำให้เวปเพจมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคนิกที่ภาษา HTML ไม่สามารถทำได้โปรแกรมที่เขียนโดยบนภาษา JAVA ทำงานในเว็บ browser ส่วนใหญ่จะมีความซับซ้อนไม่สามารถเขียนโดยภาษาสคริปได้เช่น โปรแกรมอัพโหลดรูปภาพ ของ facebook เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมสามารถใช้ทรัพยากรเครื่องได้อย่างมากมายดังนั้นควรระวังมัลแวร์หรือไวรัส โดยสังเกตจากผู้ผลิตตอนอนุญาตให้รัน Java Applets คือโปรแกรมในภาษาจาวาที่ถูกกำหนดให้ใช้งานได้บนเว็บเพจโดยแสดงผลผ่าน Web browser มีลักษณะเป็นพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมที่มีองค์ประกอบภายในเป็นภาพกราฟิกส์ เป็นปุ่ม หรือกล่องข้อความ ภาพเคลื่อนไหวหรือเสียง โดยสามารถตอบสนองเหตุการณ์ต่างๆและสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้
ในการสร้าง Java Applet ให้ทำงานได้จะต้องมีไฟล์ 2 ไฟล์คือ ไฟล์ .java ซึ่งเป็นโปรแกรมในภาษาจาวาโดยจะถูก compile เป็นไฟล์ .class ก่อนนำไปใช้งาน อีกไฟล์หนึ่งคือไฟล์ .html ใช้เรียก applet ให้ทำงานด้วยประโยค applet เช่น ซึ่งจะเรียก MouseAddImage.class มาทำงานโดยแสดงผลบนพื้นที่ขนาด 950x400 โดยที่ browser จะเป็นผู้โหลดไฟล์ .html มาจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัว หรือจากคอมพิวเตอร์แม่ข่าย(Server)เมื่อไฟล์ .html ทำงานถึงประโยค โปรแกรม MouseAddImage.class ก็จะถูกโหลดมาทำงาน โปรแกรม Java Application จะทำงานภายใต้ Java Interpreter ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมอื่น ส่วoโปรแกรม Java Applet ทำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมที่กำหนดโดย browser วิธีนี้ทำให้เราสามารถส่งโปรแกรมไปทำงานบนเครื่องใดๆในระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้ html page เป็นตัวกลาง Applet ตัวหนึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็น GUI(Graphic User Interface) เพราะเมื่อแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะเป็นพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมที่สามารถมีองค์ประกอบอื่นๆภายใน เช่น ปุ่ม กล่องข้อความ รูปภาพหรือกราฟิกส์รูปทรงต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถตอบสนองเหตุการณ์ต่างๆ เช่นการคลิ๊กเมาส์ เป็นต้น


USB




USB ย่อมาจาก Universal Serial BUS ซึ่งถูกพัฒนาโดย COMPAQ, Digital Equipment (รวมกิจการกับ COMPAQ), IBM, Intel, Microsoft, NEC และ Northern Telecom. เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงานของพอร์ตอนุกรม เป็นอินเตอร์เฟสที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ I/O กับคอมพิวเตอร์

ระบบ USB นั้นนับว่าเป็นระบบที่ทันสมัยรองลงมาจาก Fire wire เนื่องจากรองรับอุปกรณ์ได้มากขึ้น และ ง่ายต่อการติดตั้ง มีความสามารถรองรับ Plug & Play จึงทำให้ USB เป็นที่นิยมอย่างมากใน ปัจจุบัน โดยอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ใช้ซึ่งมีมากมาย เช่น CD-ROM, Mouse, Keyboard, กล้องดิจิตอลและอุปกรณ์อื่นอีกมากมาย ซึ่ง USB มีคุณสมบัติ ดังนี้

- ลดข้อจำกัดของอุปกรณ์ต่อพ่วงโดยมากขึ้นถึง 127 อุปกรณ์ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว

- "Hot Pug" สนับสนุนการต่อ, ถอดออก และ เซต อุปกรณ์ที่ติดต่ออยู่โดยไม่จำเป็นต้อง boot เครื่องใหม่
- สามารถจ่ายไฟฟ้าขนาด
5 Volt ให้แก่อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับ USB

- สายเคเบิลนั้นสามารถนั้นสามารถยาวได้ถึง 5 เมตร
- มี MODE การทำงานแบบ Suspend เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน
- สามารถกำหนดค่าตำแหน่งแอดเดรสของ อุปกรณ์ต่างๆ โดยอัตโนมัติ
- USB มีคอนเนคเตอร์ที่เป็นแบบเฉพาะ ทำให้ช่วยป้องกันความผิดพลาดในเรื่องของการต่ออุปกรณ์ผิดประเภท

ข้อดีของมาตรฐาน USB 2.0
- สนับสนุนพอร์ต USB 6 พอร์ต
- การต่อเชื่อมที่ความเร็วสูงกว่า USB 1.1 ถึง 40 เท่า, USB 2.0 ให้ความเร็ว 480 Mbps เมื่อเทียบกับ USB 1.0 ที่ให้ความเร็ว 12 Mbps
- เข้ากันได้กับมาตรฐาน USB 1.1
- รองรับการโอนย้ายข้อมูลวิดีโอ 30 เฟรม/วินาที ทำให้เห็นภาพที่ต่อเนื่องสมจริง

ตำแหน่งขาของ USB
- ขา 1 เป็น Voltage +
- ขา 2 เป็น DATA -
- ขา 3 เป็น DATA+
- ขา 4 เป็น Voltage -

ถ้าหากเปรียบเทียบกับมาตรฐานการต่อเชื่อมของ FireWire (IEEE 1394) แล้ว จะเห็นว่ามาตรฐาน USB 2.0 นั้นสูงกว่า FireWire IEEE 1394 อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ในด้านการใช้งานแล้ว FireWire จะมุ่งเน้นไปทางด้านมัลติมีเดียมากกว่า USB แต่ทั้งคู่ก็เป็นการต่อเชื่อมผ่านบัสอนุกรมเหมือนกัน


VGA


Graphics Processing unit (GPU) สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งได้คือ visual processing unit (VPU) ซึ่ง GPU หน้าที่หลักของ GPU ก็คือช่วยในการประมวลการทำงานในด้านภาพกราฟฟิกบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหลักการทำงานก็คล้ายกับ CPU แต่จะแตกต่างกันตรงที่ การ์ดแสดงผลสมัยเก่า ทำหน้าที่แปลงข้อมูลดิจิตอลเป็นสัญญาณเท่านั้น แต่จากกระแสความนิยมของการ์ดเร่งความเร็วสามมิติ ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 90 โดยบริษัท 3dfx และ nVidia ทำให้เทคโนโลยีด้านสามมิติพัฒนาไปมาก ปัจจุบันการ์ดแสดงผลสมัยใหม่ ได้รวมความสามารถในการแสดงผลภาพสามมิติมาไว้ เป็นมาตรฐาน และได้เรียกชื่อใหม่ว่า GRAPHICS PROCESSING UNIT โดยสามารถลดงานด้านการแสดงผลของของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ได้มากมีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณ digital ให้เป็นสัญญาณภาพ โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ ส่วนภาพนั้น CPU เป็นผู้ประมวลผล แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีการประมวลผลภาพนั้น VGA card เป็นผู้ประมวลผลเองโดย Chip นั้นได้เปลี่ยนเป็น GPU (Grarphic Processing Unit) ซึ่งจะมีการประมวลภาพในตัว Card เองเลย เทคโนโลยีนี้เป็นที่แพร่หลายมากเนื่องจากราคาเริ่มปรับตัวต่ำลงมาจากเมื่อก่อนที่เทคโนโลยีนี้เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ โดย GPU ค่าย Nvidia เป็นผู้ริเริ่มการลุยตลาด




การ์ดจอ (Video Card)
การ์ดแสดงผล หรือ กราฟฟิกการ์ด (Graphic card) เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำหน้าที่ในการนำข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลของซีพียูมาแสดงบนจอภาพ ทำให้ผู้ใช้ สามารถควบคุมการทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจอภาพจะเป็นส่วนที่รับข้อมูลจากการ์ดแสดงผลอีกทีหนึ่ง การ์ดกราฟฟิกทีได้รับความนิยมและใช้กันแพร่หลายในอยู่ปัจจุบัน เป็นการ์ดกราฟฟิกที่มี GPU เป็นตัวประมวลผล




กระบวนการทำงาน

การ์ดแสดงผลมีหน้าที่หลักในการรับข้อมูลดิจิตอลมาแปลงเป็นสัญญาณอะนาล็อก เพื่อส่งออกไปแสดงผลยังหน้าจอ ซึ่งสามารถแบ่งการทำงานของการ์ดแสดงผลออกเป็น 2 โหมดคือ โหมดตัวอักษร (Text Mode) โหมดการแสดงผลที่สามารถแสดงได้ เฉพาะข้อความที่เป็นตัวอักษรบนจอภาพ ไม่สามารถแสดงรูปภาพกราฟฟืกต่าง ๆ ได้ หน่วยย่อยที่สุดบนจอภาพในโหมดนี้ คือ ตัวอักษร เช่น การทำงานในระบบ DOS และ โหมดกราฟฟิก (Graphic Mode) ลักษณะการทำงานแบบกราฟฟิก ในคอมพิวเตอร์ PC ของ IBM ได้แก่ ได้แก่การทำงานที่แสดงออกมาเป็นภาพ เส้นและตัวอักษรบนจอภาพ graphic mode สร้างภาพโดยวิธีใช้จุด pixel แต่ละจุดมาต่อเรียงกันเพื่อสร้างเป็นภาพ เป็นโหมดที่ต้องการความละเอียดในการแสดงผลสูงดังจะเห็นได้จากโหมดการทำงานของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ยี่ห้อการ์ดจอต่างๆ
ปัจจุบันการ์ดแสดงผลมีหลายยี่ห้อ เช่น XFX MSI Inno 3D Winfast ASUS


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น